"นางเงือกใหญ่" โดนสั่งรื้อ! ดราม่าเดือด... นี่คือการบูลลี่รูปร่างผู้หญิงหรือแค่ศิลปะไม่ถูกใจกันแน่?!

ความงามที่ถกเถียง: เมื่อ “นางเงือกใหญ่” กลายเป็นประเด็นร้อนที่สะท้อนทัศนคติสังคม

 

ในโลกศิลปะที่เปิดกว้าง ประติมากรรมมักเป็นตัวแทนของความคิด ความรู้สึก หรือความงามในรูปแบบต่างๆ แต่บางครั้งผลงานเหล่านั้นก็อาจจุดประกายการถกเถียงที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องของสุนทรียะ ดังเช่นกรณีของ “นางเงือกใหญ่” (Den Store Havfrue) รูปปั้นบรอนซ์น้ำหนัก 14 ตัน ความสูง 4 เมตร ที่กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมเดนมาร์กในขณะนี้

ประเด็นเริ่มต้นขึ้นเมื่อสำนักงานพระราชวังและวัฒนธรรมของเดนมาร์ก (Agency for Palaces and Culture) มีคำสั่งให้รื้อถอนรูปปั้นดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยอ้างเหตุผลที่ฟังดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความซับซ้อนว่า รูปปั้นนี้ "ใหญ่เกินไป", "โป๊เกินไป" และ "ดูหยาบคาย" ซึ่งคำสั่งนี้ได้นำไปสู่การถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนบนสื่อสังคมออนไลน์และหน้าหนังสือพิมพ์ว่านี่คือการวิพากษ์วิจารณ์งานศิลปะ หรือเป็นเพียงการตัดสินร่างกายของผู้หญิงที่อยู่นอกเหนือจาก "มาตรฐาน" ที่สังคมยอมรับ


จากผลงานที่ตั้งอยู่ข้าง “นางเงือกน้อย” สู่การถูกวิจารณ์ว่า “ลามก”

 

รูปปั้น “นางเงือกใหญ่” สร้างขึ้นโดย ปีเตอร์ เบค ประติมากรชาวเดนมาร์ก เมื่อปี 2006 และเคยจัดแสดงอยู่ใกล้กับรูปปั้น "นางเงือกน้อย" (The Little Mermaid) อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงโคเปนเฮเกน แต่ทว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนในพื้นที่มองว่ามันเป็นเพียง "ของเลียนแบบที่ดูหยาบโลน" ทำให้รูปปั้นถูกย้ายไปตั้งที่ปราการเก่าแดรเกอรอฟต์ (Dragør Fort) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมืองแทน แม้จะถูกย้ายไปในพื้นที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่านเท่า แต่ความขัดแย้งเกี่ยวกับรูปปั้นนี้ก็ไม่ได้หายไป

ล่าสุด ความตึงเครียดกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อสำนักงานพระราชวังฯ มีคำสั่งให้รื้อถอนรูปปั้น ซึ่งแม้ศิลปินจะเสนอที่จะบริจาคให้กับเมือง แต่ เฮลเล บาร์ธ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเมืองของแดรเกอรอฟต์ ก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า “มันเป็นข้อเสนอที่ดีนะ แต่รูปปั้นนี้มันใหญ่เกินไปและหาที่วางได้ยากจริงๆ” ซึ่งเป็นเหตุผลที่คล้ายคลึงกับเหตุผลที่ทางสำนักงานพระราชวังฯ ใช้ในการรื้อถอนในตอนแรก


เมื่อการวิจารณ์ผลงานศิลปะ กลายเป็น Body Shaming

 

ประเด็นนี้เริ่มลุกลามและถูกมองในมุมที่ลึกกว่าเรื่องของงานศิลปะ เมื่อ มาทิอัส ครายเกอร์ นักวิจารณ์ศิลปะชื่อดัง ออกมากล่าวว่ารูปปั้นนี้ "น่าเกลียดและส่อไปในทางลามก" ขณะที่ ซอริน ก็อตเฟรดเซน นักข่าวและนักบวช ก็ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Berlingske โดยระบุว่า "รูปปั้นนี้สะท้อนจินตนาการของผู้ชายมากกว่าความเป็นจริงของผู้หญิง และยิ่งทำให้ผู้หญิงยากที่จะยอมรับรูปร่างของตัวเอง" ซึ่งการวิจารณ์เช่นนี้ถูกมองว่าเป็นการตอกย้ำมาตรฐานความงามที่คับแคบ และทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องเผชิญกับร่างกายที่แตกต่างไปจากอุดมคติในพื้นที่สาธารณะ

อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ เบค ศิลปินผู้สร้างรูปปั้นได้ยืนยันว่าเขาไม่ได้มีเจตนาให้ผลงานดูโป๊หรือยั่วยุใดๆ แต่เขาเพียงแค่สร้างสรรค์ผลงานตามสัดส่วนของร่างกายจริงตามธรรมชาติเท่านั้น พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่าเขาก็ได้รับกำลังใจจากชาวเมืองแดรเกอรอฟต์ที่ชื่นชอบผลงานของเขาเป็นจำนวนมาก

การถกเถียงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อ อามินาตา คอร์ แทรน บรรณาธิการฝ่ายอภิปรายของหนังสือพิมพ์ Berlingske ตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า "แล้วหน้าอกผู้หญิงต้องอยู่ใน 'มาตรฐานที่ถูกต้อง' เท่านั้นถึงจะปรากฏในที่สาธารณะได้เหรอ?" เธอชี้ให้เห็นว่ารูปปั้น "นางเงือกใหญ่" ไม่ได้โป๊กว่า "นางเงือกน้อย" เลย เพียงแค่ "หน้าอกใหญ่กว่า" เท่านั้นที่กลายเป็นปัญหา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตัดสินที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของศิลปะ แต่เป็นอคติที่มีต่อรูปร่างของผู้หญิงอย่างชัดเจน


ความงามที่ซ่อนเร้นในพื้นที่สาธารณะ

 

กรณีของ "นางเงือกใหญ่" กลายเป็นมากกว่าแค่ประเด็นร้อนเรื่องงานศิลปะ แต่เป็นการสะท้อนทัศนคติของสังคมเดนมาร์กที่มีต่อรูปร่างของผู้หญิงที่ยังเต็มไปด้วยอคติและบรรทัดฐานที่มองไม่เห็น มันทำให้เราต้องกลับมาตั้งคำถามว่าความงามในพื้นที่สาธารณะควรมีขอบเขตแค่ไหน และเรากำลังตัดสินงานศิลปะจากมุมมองของศิลปะจริงๆ หรือเรากำลังตัดสินมันจากอคติส่วนตัวที่ซ่อนอยู่ในจิตใจกันแน่

ในเมื่อศิลปะควรเป็นพื้นที่แห่งเสรีภาพและความหลากหลาย การจำกัดและตัดสินผลงานจากรูปลักษณ์ภายนอกก็เท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสที่เราจะได้เห็นความงามในรูปแบบอื่นๆ ที่แตกต่างไปจากที่เราคุ้นเคย เรื่องราวของ "นางเงือกใหญ่" จึงเป็นเหมือนบทเรียนที่ชี้ให้เห็นว่าบางครั้งสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการวิจารณ์งานศิลปะ อาจเป็นเพียงกระจกสะท้อนมาตรฐานความงามอันคับแคบที่สังคมได้สร้างขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

คุณคิดว่าการถกเถียงเรื่องนี้เป็นเรื่องของงานศิลปะหรือเป็นเรื่องของอคติในสังคมมากกว่ากัน?